วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

Project Management Triangle - ถูก เร็ว ดี เลือกได้แค่สองอย่าง

ช่วงนี้เห็นมีหลายๆคนยกเรื่อง "ถูก เร็ว ดี เลือกได้แค่สองอย่าง" มาคุยกันเยอะ หลายคนก็ทำภาพมาประกอบให้ดูง่ายขึ้นด้วยเช่นที่เพจบันทึกหมอโหด (http://on.fb.me/1EXl12l) ก็เลยอยากจะเอามาเล่าให้กันฟังเพิ่มเติมซะหน่อย

แนวคิดนี้เรียกว่า Project Management Triangle หรือ Triple Constraint ซึ่งเป็นแนวคิดพื้นฐานเรื่องการจัดการโครงการ ข้อความหลักที่เจ้าสามเหลี่ยมนี้ต้องการจะสื่อก็คือคุณไม่มีวันได้ทั้งสามอย่างพร้อมกัน คุณจะได้เพียงแค่สองอย่างเท่านั้น (ถ้าไม่ต้องการให้เกิดผลเสียอย่างอื่นขึ้นมาแทน เช่นทำร้ายความสัมพันธ์ในที่ทำงาน ดูตัวอย่างได้ข้างล่าง)

ถ้าถูกและดี มันก็จะไม่เร็ว
ถ้าดีและเร็ว มันก็จะไม่ถูก
ถ้าเร็วและถูก มันก็จะไม่ดี

ก่อนที่จะไปต่อผมอยากจะบอกไว้สักหน่อยว่าแนวคิดนี้ไม่ได้เป็นกฎตายตัวนะครับ เพราะยังมีบางคนที่เสนอว่ามันมีสี่ปัจจัย(http://bit.ly/1Kuw44q) หรือกระทั่งหกปัจจัย(http://bit.ly/1QwjWE7) แต่อันที่มีสามปัจจัยนี้เป็นพื้นฐานครับ

ในมุมมองที่เรื่องนี้ถูกยกมาพูดถึงกันเต็ม social media กันอยู่ทุกวันนี้มันออกจะเป็นเชิงลบอยู่สักหน่อย ส่วนใหญ่ที่เห็นจะเป็นการเอามาใช้เพื่อปรามคนอื่นว่า "อย่าบ่นเวลาได้แค่สองในสามอย่าง" (ที่เจอว่าเอามาพูดถึงกันเยอะคือการบริการในโรงพยาบาลรัฐบาล ซึ่งถือว่าถูกและดี แต่ใช้เวลานานมาก) ซึ่งจริงๆการจะเอามาใช้ในมุมนี้ก็ไม่ใช่เรื่องผิด แต่วันนี้จะขอเล่าเรื่องนี้ในเชิงบวกกว่านั้นสักหน่อย เราจะย้อนมาดูจุดเริ่มต้นของแนวคิดนี้กัน

ตามที่ชื่อมันบอก "Project Management" ก็มีประโยชน์เอาไว้เพื่อวางแผนการจัดการโครงการ นั่นคือมันไม่ได้มีไว้สื่อว่าโลกนี้สิ้นหวังแล้ว แต่มีไว้สื่อว่าถ้าจะทำโครงการอะไรก็คิดดูให้ดีก่อนว่าเรื่องไหนสำคัญ เพราะแต่ละโครงการนั้นมีวัตถุประสงค์และสภาพแวดล้อมที่แตกต่างกันไป ซึ่งก็แน่นอนว่าสามปัจจัยนี้จะมีความสำคัญไม่เท่ากัน บางงานอาจะต้องการเร็วและดีก็ต้องทุ่มทุนกันนิดนึง บางงานอาจจะไม่ต้องดีมากเพราะความต้องการต่ำก็สามารถจะประหยัดงบไปพร้อมๆกับทำได้เร็ว ฯลฯ แนวคิดนี้จึงไว้คอยเตือนสติเราให้คิดอยู่เสมอว่าเราต้องการอะไรแน่ และอะไรที่เรายอมเสียได้

ซึ่งปัญหาการจะเอาทุกอย่างและไม่พิจารณาว่าสิ่งที่สำคัญคืออะไรนั้นก็ดูจะเจอได้บ่อยในงานราชการ (แต่อาจจะเป็นความรู้สึกไปเองเพราะตัวเองใช้ชีวิตอยู่ในงานราชการ บางทีในภาคเอกชนอาจจะเจอเยอะไม่แพ้กันก็ได้) เราจะเจออยู่บ่อยๆที่หัวหน้าสั่งงานมา จะเอาให้ได้เร็วๆและดีๆ แต่ไม่เคยให้งบประมาณมา หรือให้มาก็จิ๊บจ๊อยมากจนไม่มีทางพอใช้ สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือการเผาเครื่องลูกน้องของตัวเอง และความสุขในหน่วยงานที่น้อยลงๆไปทุกวัน จนสุดท้ายคนดีมีความสามารถก็ค่อยๆหายไป หากหน่วยงานต่างๆเอาแนวคิดนี้เข้าไปใช้พิจารณาโครงการของตัวเองอยู่เสมอ รู้ข้อจำกัดของตัวเอง และเลือกว่าสิ่งที่ต้องการอย่างแท้จริงคืออะไร เราก็คงจะไม่ต้องเจอกับปัญหาแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ความช้ำใจอีกอย่างของระบบราชการไทยคือมักจะไม่ค่อยมีงบประมาณไปลงให้กับการพัฒนาโครงการ (ประมาณสี่ในห้าส่วนจะไปลงกับรายจ่ายประจำ http://bit.ly/1F5Crvg) ดังนั้นถ้าเริ่มต้นว่าไม่มีงบแล้ว ก็เท่ากับงานราชการไทยมักจะเลือกได้อีกแค่อย่างเดียวคือจะเอาดีหรือจะเอาเร็ว สิ่งที่น่าคิดตรงนี้ก็คือผู้ที่ทำงานราชการทั้งหลายเมื่อรู้ถึงข้อจำกัดตรงนี้แล้วก็จงวางแผนงานและโครงการไว้แต่เนิ่นๆ ให้มีเวลาเตรียมตัวกันยาวๆ มิฉะนั้นคุณก็จะต้องทำงานออกไปแบบไม่ดี

ภูมิปัญญาอีกอย่างหนึ่งที่มาจากแนวคิดนี้คือโดยธรรมชาติแล้วถ้าไม่สิ้นไร้ไม้ตอกจริงๆก็ไม่มีใครต้องการของไม่ดี ดังนั้นสุดท้ายแล้วในชีวิตประจำวันเราก็โดนบังคับกลายๆว่าเลือกได้อีกอย่างเดียวระหว่างถูกและเร็ว แต่ถ้าเราตระหนักถึงแนวคิดนี้อยู่เสมอเราก็น่าจะวางแผนและตัดสินใจเรื่องต่างๆได้ดีขึ้นครับ

และประโยชน์ข้อสุดท้ายก็คือเอาไว้ประเมินงานของตัวเองครับ มาตรฐานของโลกนี้คือต้องได้สองอย่าง ถ้าคุณทำได้อย่างเดียวในสามอย่าง (เช่นทำได้แค่ถูก แต่ทั้งไม่ดีและไม่เร็ว) นั้นเท่ากับคุณมีปัญหาใหญ่แล้วล่ะครับ และคงต้องรีบหาวิธีปรับปรุงงานของตัวเองอย่างเร่งด่วน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น