วันอังคารที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2558

เราสามารถทำนายแผ่นดินไหวได้จริงหรือไม่

บ่อยครั้งเวลาที่เกิดภัยพิบัติครั้งใหญ่ขึ้นก็จะมีคนที่พูดถึงประเด็นของการทำนายภัยพิบัติเหล่านี้ ในกรณีแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เนปาลที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็เช่นกัน บางคนอาจจะสงสัยว่าเราไม่มีทางทำนายแผ่นดินไหวได้เลยเหรอ ในเมื่อเรามีเครื่องมีตรวจวัดต่างๆมากมาย และเราก็รู้ว่ารอยเลื่อนของแผ่นธรณีใหญ่ๆอยู่ที่ไหนบ้าง

ก่อนอื่นต้องลองถอยกลับมามองข้อมูลสำคัญที่ต้องได้จากการทำนายก่อน การทำนายจะสมบูรณ์ได้ก็ต่อเมื่อ "สถานที่" และ "เวลา" ถูกต้องทั้งคู่ ซึ่งนี่แหละเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้การทำนายแผ่นดินไหวเป็นเรื่องยากมากๆจนแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

ลองจินตนาการสิ่งที่จะเกิดขึ้นหากมีการประกาศออกมาว่าจะเกิดแผ่นดินไหวขึ้นในเมือง A วันที่ ฺB ในขั้นแรกหากวันที่ประกาศใกล้กับวันที่ทำนายว่าจะเกิดแผ่นดินไหวก็จะต้องเกิดความโกลาหลเพราะผู้คนจะพยายามหนีออกจากเมือง อาจมีการแย่งชิงสินค้า อาหาร หรือน้ำมัน ความเสียหายที่เกิดขึ้นอาจจะหนักพอๆกันหรืออาจจะมากยิ่งกว่าผลที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหวเอง

ถ้าวันที่ประกาศห่างจากวันที่ทำนายพอสมควรก็อาจจะไม่เกิดความโกลาหล แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นคืออะไร? สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือเมืองนั้นคงจะกลายเป็นเมืองร้าง กิจกรรมทุกอย่างในเมืองก็จะหยุดสนิท ผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมก็จะตามมาอย่างมากมาย

ไม่เพียงแค่นั้นการทำนายแผ่นดินไหวเองนั้นก็ทำได้ยากอยู่แล้ว การจะระบุสถานที่และเวลาให้ได้อย่างแม่นยำนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ลองคิดดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากรัฐบาลประกาศการทำนายแผ่นดินไหวออกมา ผู้คนย้ายออกจากเมืองหมด แต่สุดท้ายแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือรัฐบาลประกาศการทำนายออกมาแล้วผู้คนย้ายออกไปเมืองข้างๆ แต่แผ่นดินไหวกลับไปเกิดในเมืองข้างๆแทน โอกาสที่จะทำนายถูกนั้นต่ำอยู่แล้ว และผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการทำนายที่ผิดก็ยังใหญ่หลวงด้วยเช่นกัน ปัญหาเหล่านี้ไม่ได้จำเพาะอยู่กับแผ่นดินไหวเท่านั้นแต่ยังรวมถึงภัยพิบัติประเภทอื่นๆด้วย



เมื่อเราตระหนักถึงปัญหาเหล่านี้แล้วเราก็คงจะไม่แปลกใจว่าทำไมเราถึงแทบจะไม่เคยได้ยินประกาศเกี่ยวกับการทำนายภัยพิบัติเลย และในการจัดการกับปัญหาภัยพิบัตินั้นประเทศที่พัฒนาแล้วก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับการทำนายเป็นอันดับหนึ่ง แต่ให้ความสำคัญกับสิ่งที่จะลดความเสียหายที่เกิดขึนแทน กฎหมายเกี่ยวกับโครงสร้างบ้านเรือนและสิ่งต่างๆที่ทนทานต่อแผ่นดินไหว การเตรียมพร้อมในการจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ฯลฯ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งในปัจจุบัน

และถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นประสิทธิภาพของวิธีเหล่านี้ก็ต้องลองเปรียบเทียบระหว่างสิ่งที่เกิดขึ้นในเนปาลและสิ่งที่น่าจะเกิดขึ้นหากแผ่นดินไหวในระดับเดียวกันเกิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เนปาลนั้นปัจจุบันอยู่ที่สองพันกว่าคน และสุดท้ายแล้วน่าจะอยู่ที่สามพันกว่าคน แต่หากแผ่นดินไหวในระดับเดียวกันเกิดขึ้นในรัฐแคลิฟอร์เนีย(ซึ่งมีกลไกในการลดความรุนแรงจากแผ่นดินไหว)จำนวนผู้เสียชีวิตถูกประมาณไว้ว่าน่าจะอยู่ที่ประมาณสิบถึงสามสิบคนเท่านั้น!

ดังนั้นแนวคิดในปัจจุบันก็คือเราไม่พยายามจะทำนายสิ่งที่เราไม่สามารถทำนายได้อย่างแม่นยำ แต่เราเลือกที่จะเตรียมพร้อมในการลดความรุนแรงหากเกิดภัยพิบัติขึ้นแทน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น